top of page
ค้นหา

พูดชมคนอื่นยังไง .... ให้ดูไม่เฟค

  • รูปภาพนักเขียน: irene chonnipha
    irene chonnipha
  • 23 พ.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 28 พ.ค. 2564




  • สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณสามารถทำให้คนอื่นได้ง่ายๆ โดยไม้ต้องลนทุนอะไรเลย จากคำเพียงไม่กี่คำที่คุณคุณชมเขาจากใจจริง


  • คุณสามารถทำให้วันของพวกเขาสดใสขึ้นด้วยการพูดชม ไม่เพียงแต่ทำให้คนฟังรู้สึกดีใจเท่านั้นคนพูดก็รู้สึกดีด้วยเช่นกัน คนที่ชมคนอื่นเป็นก็เหมือนกับการเรียนรู้ที่จะค้นหาสิ่งที่ดีๆ ในตัวผู้อื่นมากกว่าที่จะมุ่งความสนใจไปในข้อเสียของเขา


  • บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่เราไม่รู้ว่าจะชมคนอื่นยังไงให้เขารู้สึกดี ไม่รู้ว่าถ้าชมไปแล้วเขาจะคิดว่าเราตอแหลหรือป่าวซึ่งเป็นเหตุทำให้ไม่กล้าพูด


  • บางคนที่เป็นคนขี้อายการจะเดินเข้าไปชมเชยความดีงามของใครสักคนนั้นมักจะทำให้รู้สึกเขินและสุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการเก็บ คำชม นั้นไว้ในใจทุกที


  • เคล็ดลับเหล่านี้หวังว่าจะช่วยให้คุณชมคนอื่นได้แบบจริงใจ แม้แต่คนที่ขี้อายที่สุดก็สามรถทำให้วันของคนรอบตัวสดใสขึ้นได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ



เราจะไม่ชมในเรื่องทั่วไป แต่เราจะชมให้ลึกซึ้งมากกว่านั้น


ให้เปลี่ยนคำชมจาก “ชุดคุณดูดีมากเลย” มาเป็น “ชุดที่คุณใส่มาวันนี้สวยจัง ฉันชอบรสนิยมแฟชั่นของคุณจังเลย” จะเห็นได้ว่า คุณไม่ได้ชมแค่ชุดที่เขาอย่างเดียวแต่คุณยังไปถึงตัวตนของเขาในการเลือกสรรค์เสื้อผ้าได้เหมาะสมและดูดีเข้าตัวเขาเอง ด้วยคำชมเชยเหล่านี้แหละที่สามารถสร้างพลังให้คนฟังรู้สึกกระปรี้กระเป่าและมีความมั่นใจมากขึ้น แน่นอนว่ามันทำให้เขามีความสุข และคุณก็ได้ทำให้คนรอบข้างยิ้ม ..... ถ้าหากคุณชมแค่ชุดที่เขาใส่ก็แปลว่าคุณชมดีไซน์เนอร์หรือคนออกแบบชุด





อย่าปริปากพูดคำชมออกมา ถ้าหากคุณไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ


ถ้าเกิดว่าวันนี้เพื่อนของคุณรีบแต่งตัวเกินไป จึงทำวันนี้เธอดูโครตเฉิ่ม....เชย.... ดูล้าสมัยมากกับชุดที่เธอสวมใส่นั้น คุณไม่จำเป็นแสร้งพูดว่าคุณชอบชุดหรือสไตล์ของเธอ ไม่พูดจะดีกว่าการพูดโกหก การจะชมเชยใครทั้งทีต้องให้มันออกมาจากใจจริง คนฟังเขาสามารถรู้สึกได้





พูดชมเชยได้ แต่ต้องไม่ใช่การประจบประแจง


คำชมควรเป็นอะไรที่สั้นและไพเราะ การที่เราพูดชมเยินยอบ่อย ๆ เขาทำอะไรก็ชมไปหมด อย่าเป็นดั่งสุภาษิตไทยที่ว่า “ปากหวานก้นเปรี้ยว” ควรชมแต่พอดี

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังแยกไม่ออกระหว่างการพูดชมจากใจจริงกับการประจบสอพลอ มันก็ไม่แปลกหรอก เพราะว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ชอบให้คนอื่นชมเชยตัวเองยังไงล่ะ






เตรียมคำพูดหลังจากชมเขาเรียบร้อยแล้ว เขาอาจถามว่า “ทำไมถึง....?”


ในกรณีที่คุณได้พูดชมเขาไปสั้นๆ แล้วเขาถามกลับมาว่า “ทำไมถึงชอบล่ะ....?” ขอยกตัวอย่าง คุณได้อ่านหนังสือที่เพื่อนของคุณเขียน แล้วคุณชมเขาว่า “ฉันชอบอ่านหนังสือของเธอมากเลย” เขาอาจจะถามกลับมา ว่าชอบเล่มไหน ตอนไหน ต่างๆนาๆ ดังนั้นก่อนที่คุณจะชมใครสักคน คุณต้องพร้อมที่จะรับมือกับคำถามเหล่านั้น





คุณอาจคิดว่าคุณชมเชยเขา แต่ความจริงแล้วคุณกำลังสบประมาทเขาอยู่


การชมเชยแบบแบ็คแฮนด์ ก็คือการสบประมาทอย่างละเอียดอ่อน สิ่งนี้สามารถทำให้คนฟังรู้สึกพังมากกว่าเดิม ยกอย่างเช่น “เสื้อเธอดูสวยน่ะ แต่ไม่เข้ากับกางเกงเลย” “เธอเป็นคนสวยน่ะ แต่แต่งตัวได้เชยมากเลย” “เธอเป็นคนเรียนรู้งานเร็วน่ะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าหาเธอมาทำงานตรงตามเวลา” มันย้อนแย่งกัน ผู้พูดไม่ได้มีเจตนาจะสบประมาท





พูดชมจากใจจริงโดยปราศจากผลประโยชน์ใดๆ


อย่าชมใครเพียงเพราะว่าหวังผลประโยชน์จากเขาหรือคุณอยากให้เขาช่วยอะไรบางอย่าง อย่างเช่น “ฉันรู้ว่าคุณเก่งเรื่องการตลาดมาก คุณคือสวรรค์มาโปรด รบกวนมาช่วยฉันทำการตลอดหน่อยได้ไหม? “เธอเก่งใน การเข้าหาคนอื่นมากเลย ใครๆก็รักเธอ ดังนั้นฉันอยากให้เธอไปประชุมกับลูกค้าคนนี้ให้หน่อย เธอต้องรับมือกับเขาได้อย่างแน่นอน” นี่มันไม่ใช่คำชมเชยแต่มันเป็นการหลอกใช้ที่ผู้ฟังเต็มใจที่จะทำตาม



source https://www.prettyopinionated.com/2013/01/compliment/

 
 
 

Comments


Join my mailing list

Thanks for submitting!

© 2023 by The Book Lover. Proudly created with Wix.com

  • YouTube
bottom of page